ไก่เชิงจะแบ่งตามเพลงหรือเชิงตีได้หลายลีลา บางตัวก็ตีได้เชิงเดียว บางตัวก็ตีได้หลายเชิง ซึ่งอย่างหลังเป็นสิ่งที่นักเลงไก่ต้องการมากที่สุดเพราะถือว่าครบเครื่อง กระบวนแม่ไม้ของไก่เชิงอย่างกว้างๆ 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ |
ไก่เชิงชนสองคอ ลักษณะเป็นไก่ที่เดินเร็วกว่าคู่ต่อสู้ เป็นไก่เชิงบนจัดและยิ่งเป็นตัวที่ฉกาจจะพบว่ามันจะเข้ากอด กด ขี่ บด ขยี้ ล็อก มัด ท้าวบ่า ม้าล่อ ลงจิกขาลอดทะลุหาง ยิ่งมันไปเจอคู่ต่อสู้ยืนพิงแปะหน้า ยืนดินแน่นขาตายหรือช้า จะเสียเหลี่ยมแพ้ภัยตัวเองเพราะเดินไม่ทัน เพราะมันจะถูกไก่เชิงชนสองคอ กด ขี่ เอาอกทับไหล่คู่ต่อสู้อย่างเหนียวแน่น ขาเดินไวแน่นเพื่อเข้าท้ายและหลังคู่ต่อสู้ และหากมันสูงกว่าคู่ต่อสู้ก็ยิ่งเป็นต่อมากขึ้น ข้อเสียเปรียบก็มี คือ หากพบคู่ต่อสู้ที่เชิงเดียวกัน และดันเตี้ยกว่าคู่ต่อสู้ ความพลิกผันก็มีได้ เพราะไม่รู้จักหลบซุกปีกคู่ต่อสู้ |
ไก่เชิงสองคอสองปีก เป็นไก่เชิงที่มีเทคนิคสูงขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง เป็นการพัฒนามาจากเชิงชนสองคอ แต่ฉลาดขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง มีลีลาจุกจิกแพรวพราวและสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี เมื่อเกิดเสียท่ามันจะรีบเปลี่ยนแม่ไม้กระบวนท่าเสียใหม่ โดยออกลีลาเชิงล่างมุดล็อกมัดปีก ยิ่งถ้ามันเดินไม่ทันคู่ต่อสู้จะรีบมุดเข้าปีกทำเชิงรัดมัดเพื่อให้คู่ต่อสู้ออ่นล้าเร็วยิ่งขึ้น และมันจะเป็นผู้ชนะในที่สุด |
ไก่เชิงสองคอ สองปีก สองขา เป็นไก่เชิงสุดยอดที่บรรดาเซียนชื่นชอบ ซึ่งพัฒนามาจาก 2 ประเภทแรก แต่มีอาวุธหนักคือแข้งและมีแรงที่ดีด ลักษณะของไก่ประเภทนี้เป็นไก่เชิงลงลอดทะรุขา ทำให้คู้ต่อสู้ขาอ่อนและหมดแรง |
สำหรับไก่เชิงที่มีลักษณะไก่ขี่ คือต้องเดินเร็วแบบแรมโบ้ไล่บดขยี้ชนิดถึงลูกถึงคน พอจะแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทดังนี้ |
ไก่ขี่เดินใน หัวตั้งตรงแบบ 90 องศา เดินในเหนียวแน่นเกราะเกี่ยวดี และยังเป็นไก่ที่ปากไวหรือที่เรียกว่า ปากดึง ตีนถึง แต่นั้นหมายถึงเมื่อเจอไก่ยืน แต่ถ้าไปเจอไก่พม่าที่อาศัยการตีแบบสาด ตีเร็ว มีความคล่องตัวสูง หรือไก่ที่เชิงเดียวกันก็จะลำบากในการเกราะเกี่ยว หัวสูงก็จะหลุดง่ายก็มีสิทธิ์แพ้ได้เหมือนกัน ยิ่งไปเจอไก่สองปีกจัดๆ ตีสวาป แรง มีเปอร์เซ็นต์แพ้ได้สูงมากไปอีก |
ไก่ขี่หัวลึก โดยหัวจะเฉียงเป็นมุม 45 องศา ลักษณะเข้ากอด โคนคอเหนียวแน่น เชิงชนจะมีภาษีดีกว่าเชิงขี่ใน ไก่ลักษณะนี้จะทำเชิงรูดโคนคอ เอี้ยวมาหาหูนอกหรือหูใน แต่แต่งตัวทำเชิงช้ากว่าจะตีได้ แต่ปลอดภัยเมื่อเจอไก่พม่าที่ฝีตีนจัด แต่ถ้าเจอไก่ประเภทไก่ปีก มุด มัด หรือไก่เดินใน กอดเกี่ยวก็เสี่ยงหน่อย เว้นแต่ว่ามันมีลำหักลำโค่นหนักก็พลิกกลับมาชนะได้ |
ไก่ขี่ล็อก กดโคนคอและหัว ถือเป็นไก่ขี่ที่เยี่ยมที่สุด ไก่ฝีตีนจัดอย่างไก่พม่าก็อ่อนใจ เพราะจะยุบและถอยไม่หยุดเพราะถูกกดโคนคอ ครั้นไปเจอกับไก่ขี่ด้วยกันก็จะได้เปรียบเชิง แต่ถ้าไปเจอไก่เชิงที่ตีเจ็บก็ต้องวัดว่าใครตีเจ็บมากกว่ากัน ไก่ขี่ดีจะต้องถนัดทั้งซ้ายและขวาพร้อมกับกอดเหนียวแน่น ยิ่งรูปร่างไม่เสียเปรียบก็ยากที่คู่ต่อสู้จะตีหัวได้ในทางตรงข้ามมันพยายามจับตีคู่ต่อสู้จนได้ |
ไก่ประเภทนี้จะเป็นไก่ฉลาดเดินดี คือ หลายจังหวะ มันจะประคองหัวคู่ต่อสู้ตลอดเวลา เรียกว่า กอดประคอง คู่ต่อสู้เดินช้ามันจะเดินช้าไปด้วย ไก่บางตัวเจอคู่ต่อสู้เดินช้าแต่มันไม่เดินช้าด้วย เอาไวลูกเดียว ทำให้หลุดได้ง่ายและพลาดง่ายอีกด้วย แบบนี้เรียกว่าเดินจังหวะเดียว |
ไก่เชิงมัดสองปีก จะมีลักษณะมุดหัวซุกเข้าไปใต้ปีกของคู่ต่อสู้ได้ทั้งซ้ายและขวา และโผล่หัวออกมาทางโคนปีกหรือทางกลางปีกของคู่ต่อสู้ แล้วยืดหัวไปจิกคู่ต่อสู้ ดึงหรือกดแล้วตี โดยคู่ต่อสู้จะไม่มีโอกาสได้จิกตีมันเลย ส่วนมากมันจะจิกตีหัวและหลังคู่ต่อสู้ ไก่เชิงมัดมีอยู่ 3 แบบได้แก่ มัดโคนปีก มัด 7 เส้น มัดปลายปีก |
ไก่เชิงมัด จะต้องเป็นไก่เดินเร็ว ถ้าเดินช้าความเก่งจะน้อยลง หากไปเจอคู่ต่อสู้ที่เดินเร็วกว่าจะมัดลำบาก ไก่มัดดีจะต้องเดินเร็ว หัวไหวหลบเข้าปีกซ้ายขวาได้คล่อง โดยคู่ต่อสู้งงไม่รู้ทาง และที่แน่นอนไก่เชิงมัดจะต้องอยู่ข้างคู่ต่อสู้ตลอดเวลาได้ตีหัวตลอดในลักษณะตีสวาปและทุบหลังเป็นหลัก สลับกับการตีสีข้างและปั้นขา ยิ่งไก่มัดเก่งๆเมื่อหัวเข้าปีกได้มันจะรีบบิดคอซ้ายและขวาโดยเร็วพร้อมเอาอกดันสีข้างคู่ต่อสู้ แล้วเอาหลังหรือไหล่ดันกระทุ้งคู่ต่อสู้โดยเร็วคู่ต่อสู้จะอ่อนลงเรื่อยๆ ไก่มัดจะหมดท่าไม่ได้เรื่องก็เมื่อไม่สามารถตีถูกคู่ต่อสู้ได้นั้นเอง |
ไก่ลง เป็นไก่ที่เข้าเชิงชนแล้วก้มหัวต่ำ หัวของมันจะอยู่ในระดับหน้าคอ หน้ากระเพาะ และต่ำกว่า เช่น หัวต่ำ ไม่เดินแต่เบียดติดโดยแอบแนบหัวของมันหน้าคอคู่ต่อสู้บ้าง หน้ากระเพาะบ้าง หรือที่โคนคอ ซุกปีกแอบอยู่ใต้อก เมื่อคู่ต่อสู้เผลอก็จะรีบตีแล้วรีบแอบจนคู่ต่อสู้เพลียหมดปัญญามันจึงจะออกมาตีคู่ต่อสู้ มีบางตัวหัวต่ำเดินไม่หยุด เช่นหมุดเข้าปีกออกมาตีคู่ต่อสู้ มุดแบกขาโผล่ออกมาแล้วมุดตัวมาตี ลีลาไก่จำพวกนี้เรียกว่า เชิงเล็ดลอด ซุ่มซ่อน ลักตี ขโมยตี ไก่ลงลอดทะลุหางนี้ยังแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ( จากพอใช้ไปถึงดีมาก ) คือ ลงทะลุหาง ลงงัด ลงฉีกขา |
ผู้สันทัดกรณียังให้ความเห็นของไก่ลงตัวที่เก่งๆว่า ขนหัวจะต้องไม่ร่วง มุดเข้าท้องเร็ว คู่ต่อสู้ไม่รู้ตัว กลับตัวตีเร็ว สำหรับไก่ฉีกขาหรือที่เรียกว่า"ไถนา" พอมันมุดเข้าท้อง พอหัวทะลุขา ไหล่มันจะอยู่ระหว่างขาตัวยืน มันจะรีบบิดส่วนคอพร้อมกับยกตัวคู่ต่อสู้จนเสียหลักเดินโขยก เขยกขาเดียวเนื่องจากขาอีกด้านหนึ่งอยู่บนหลัง จากนั้นเจ้าตัวอยู่ล่างก็พาแบกเดินไถไปเรื่อยๆ นานบ้างเร็วบ้างแล้วแต่จะหลุด ถูกทำบ่อยคู่ต่อสู้ก็หมดแรงเป็นฝ่ายถูกตีอยู่ล่ำไป ไก่เชิงที่มีฝีมือแพรวพราว โดยเฉพาะมีลีลามากกว่า 3 เชิงขึ้นไปจะได้เปรียบคู่ต่อสู้ แต่ถ้ามีลีลาครบเครื่องหรือที่เรียกว่า " ไก่ทรงเครื่อง" ก็เชื่อขนมกินได้เลยหาผู้ไร้เทียมทานต่อกร แต่ก็หายากจริงๆ |