ตีตอ | ส่วนใหญ่จะพบในไก่ใต้ ไก่อินโดฯ และไก่พม่า เพราะคนเหล่านี้นิยมปล่อยให้ตีตอ เพราะตีทุกทีเจ็บทุกทีจึงพากันหาไก่ตีตอจัดๆกันมากแต่ในบ่อนภาคกลางไม่ค่อยนิยมกันเพราะไก่สไตล์นี้ถึงชนะก็เสียไก่ แต่นิยมในภาคใต้และภาคเหนือเพราะเห็นผลแพ้ชนะกันเร็ว |
ตีตา | ส่วนใหญ่เป็นสไตล์ของไก่ตีตอซึ่งเป็นไก่ยืนตีไม่มีเชิงเพราะไก่อื่นที่จะตีถูกลูกตาเป็นเรื่องยาก ไก่ตีตอส่วนมากจะตีบริเวณวงแดงตรงใบหน้าที่เป็นสีแดงโขนง หัว ตา แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะตีโดนตาทุกลูกแต่ถ้าตีถูกแล้วถูกบ่อยก็ชนะได้อย่างขาดลอย |
ตีโขนง | ลักษณะนี้จะเป็นไก่เชิงเสียส่วนใหญ่ หรือในไก่พม่าที่ชอบตีสาด เตะกินเปล่า ดีดแข้ง จับหน้าหงอนตี คือถ้าได้เชิงไหนก็ตีทันที และหากไก่ถูกตีโขนงก็จะหัก ถึงกับทรุดซวนเซและยอมแพ้ไปเลยหากเป็นไก่เชิงยืนมาเจอไก่เชิงแบบนี้ก็ลำบาก |
จับหน้าหงอนตี | เชิงตีประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็นไก่ภาคกลาง ไก่พม่า ไก่ใต้ และมักเป็นไก่ใช้ตอ หากใช้เชิงตี คู่ต่อสู่จะอยู่ได้ไม่เกิน 3-4 อัน ข้อเสียของไก่จับหน้าหงอนตีจะแพ้ไก่เชิงจัดจ้าน กอดกดขี่ทับจนบางครั้งเสียเหลี่ยมไก่ไปเลย |
ตีตุ้มและคาง | ส่วนใหญ่จะเป็นลีลาของไก่ยืนที่ชอบตีตุ้มตีคาง เป็นไก่ยืนที่แปะหน้าตีกันในไก่เชิงไม่ค่อยมีให้เห็นไก่ลีลาแบบนี้ ไม่ค่อยจะชอบไก่ตีโขนงและจับหน้าหงอนตี หากเจอกันมักจะแพ้ทางกัน |
ตีหัวตีท้ายทอย | ส่วนใหญ่จะยืนเกาะเกี่ยว 2 หน้า ในไก่เชิงก็จะมีให้เห็นและส่วนใหญ่อยู่ในไก่เชิงกอด กด ขี่ จะตีหัวตีท้ายทอยได้ดี สร้างความเจ็บปวดรุนแรงได้ดีพอควร อยู่ที่จังหวะตัวไหนจะดีกว่ากันและตัวไหนมีลูกตีที่เด็ดขาดกว่า |
เท้าบ่าตีตัว | ในไก่เชงจะเห็นได้บ่อยเป็นลูกหากินและแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดเพี้ยงพล้ำคู่ต่อสู้ได้ เช่นกำลังเชิงบนกันอยู่ ( กอด กด ขี่ ) เดินสะดุดเสียจังหวะคอบิดอยู่ในจังหวะเป็นรองคู่ต่อสู้เข้าข้างหลัง ก่อนที่คู่ต่อสู้จับหูนอกหรือท้ายทอย มันจะรีบจิกบ่าตีตัวคู่ต่อสู้ให้กระเด็นออกไป แล้วค่อยกลับมาสวมคอเล่นเชิงกันต่อไป เจอเข้าบ่อยๆเป็นได้ยุบได้เหี่ยวเหมือนกัน |
ตีสวาป | เป็นการตีเข้าสีข้าง ไก่เชิงมัดฝีมือจัดๆ ถ้ามีลูกนี้ถือว่าเก่งมาก ถือเป็นลูกหลบหลีกแก้ไขสถานการณ์ ทั้งยังเป็นลูกหากินที่คู่ต่อสู้ไม่มีทางป้องกัน คือ ถ้าเข้าล็อกปีกก็ตีได้ แต่ถ้าหากเป็นไก่ตีลำโตลูกตีสีข้างอันที่สองของคู่ต่อสู้จะออกอาการให้เห็นปีกจะห้อยไม่มีกำลังจะบิน |
ทุบหลัง | ว่ากันว่าในหนึ่งอันขอให้ทุบหลังคู่ต่อสู้ 3 ทีก็พอ เพราะถ้าโดนแล้วคู่ต่อสู้จะบุบหรือหมดแรงเอาดื้อๆ จากที่เป็นไก่ตีแม่นพาลไม่ตีเอาเลย เดี๋ยวนี้มีผู้ที่ชื่นชอบไก่ที่มีแม่ไม้นี้เพราะขณะที่สถานการณ์เป็นรองอยู่หากไก่เราได้ทุบหลังคู่ต่อสู้อันละทีสองที มีสิทธิ์กลับมาเป็นต่อและชนะได้ไก่บางตัวกำลังตีอยู่พอโดนทุบหลังเข้าหน่อยถอดใจยอมแพ้เอาดื้อๆ เซียนไก้พากันกลัวนัก |
ตีหู รูหู บ้องหู | ส่วนเหล่านี้ถือเป็นจุดอันตรายของไก่ หากคู้ต่อสู้ตีเข้าบ้องหูบ่อยๆจะทำให้เสียการทรงตัวเพราะเป็นจุดเชื่อมต่อประสาทหลายส่วนของตัวไก่ บางตัวโดนทีเดียวถึงกับถลาทรุด บางตัวก็เซถลามึนงงเดินเหมือนแผ่นดินพลิก ยิ่งถ้าถูกตอแทงบริเวณข้างหูถึงกับคอแข็ง และหากโดนแทงเข้ารู้หูบางตัวถึงตายคาแข้งมาแล้ว แต่ไก่ที่มีลูกไม้แบบนี้หายากส่วนใหญ่จะเป็นไก่ตีเหลี่ยม ตีตอ ของไก่พม่าและไก่ใต้ |
หลอดคอ | บางคนเรียกคอเชือด ตรงบริเวณที่เขาเชือดคอไก่นั้นแหละ เป็นส่วนที่บอบบางและเป็นที่อยู่ของหลอดลม เมื่อถูกตีหนักๆและรุนแรง ไก่จะเจ็บปวดและแสดงอาการให้เห็นทันที บางตัวโดนเข้าถึงกับหลอดลมแตกตายคาแข้งคาสังเวียนมีให้เห็นอยู่บ่อยๆ ถือเป็นแม่ไม้และลูกอันตราย แต่แม่ไม้นี้ก็เสี่ยงเช่นกันเพราะจะตีหน้าคอก็ต้องก้มลงจุ่มตี เสี่ยงจะโดนคู่ต่อสู้ที่ชอบจับหน้าหงอนหรือตีโขนง |
สามเหลี่ยม | ถือเป็นจุดอันตรายจุดหนึ่ง เมื่อไก่โดนถึงกับยุบ หมดแรงเอาดื้อๆ บางตัวโดนเข้าไปถึงกับไม่อยากออกอาวุธเพราะกลัวถูกโต้กลับ ที่เรียกว่า สามเหลี่ยมนี้ เป็นข้อต่อระหว่างกระดูกคอและลำตัวจะมีกระเพราะพักอยู่บริเวณด้านหน้าเป็นจุดที่เสี่ยงอันตรายจากการถูกโจมตีมากที่สุด เพราะส่วนนี้มีหน้าที่ในการยึดส่วนคอและส่วนหัวทั้งหมดให้ติดกับลำตัว หากถูกตีทำให้เสียวตัวจนออกอาการให้เห็นหากถูกตีเข้าบ่อยๆแรงๆ ทำให้ฐานคอพับ (คอหัก) ตายได้ง่ายอีกด้วยส่วนตรงโคนคอด้านหลัง ที่อยู่ตรงข้ามสามเหลี่ยม ก็เป็นจุดอันตรายจุดหนึ่งหากเจอเข้าไปสองสามทีในแต่ละอันถึงกับบินแกว่ง โดนบ่อยๆก็ยุบออกลีลาอะไรไม่ได้ |
ปากบนและล่าง | อวัยวะส่วนนี้เป็นส่วนสำคัญของไก่ หากปากไก่ไม่แข็งแรงพออาจถูกตีให้ปากหลุดปากหักนั่นก็หมายถึงการพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง ควรจะเลือกไก่ที่มีร่องน้ำลึกโคนปากใหญ่และหนา |